ประชาธิปไตยในเมือเรา ตอนที่ ๒
ประชาธิปไตยในมือเรา
ตอน ๒
ใกล้เข้ามาอีกนิด ชิดเข้ามาอีหน่อย สำหรับการเลือกตั้งใหญ่ซึ่งจะเกิดมีขึ้นใน วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ เป็นวัน พิสูจน์ใจและความรู้สึกนึกคิดของชาวประชา และเป็นวันกำหนดชะตาบ้านเมือง
อย่าลืมหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายคือฝ่ายการเมืองและผู้สมัครและฝ่ายประชาชนผู้รักประเทศชาติดยอย่าลืมคำพูดที่ต้องเตือนใจไว้เสมอว่า
พรรคการเมืองและผู้สมัคร ต้องมีปณิธาน
ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ต้องกล้าหาญและชาญฉลาด
ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องกล้าหาญและชาญฉลาด ต้องมีสำนึกว่า
มีใจรักถิ่นฐาน
มีจิตวิญญาณรักชาติ
ปราศจากอคติ
มีวิจารณญาณ
ข้อที่ว่าผู้เลือกต้องปราศจากอคติ เพราะ อคติ และว่า ไปไม่ได้ ไปไม่รอด คือ ถิ่นฐานก็ไม่รุ่งเรือง บ้านเมืองก็ไปไม่รอด ดังนั้นต้องกำจัด อคติ คือ
๑. ปราศจาก
ฉันทาคติ
ลำเอียงเพราะเอาความชอบเป็นที่ตั้ง ต้องไม่เลือกเพราะว่า พรรคการเมืองและผู้สมัครเป็นสายของเรา คือ สายรก สายเลือด สายรัก สายพวก สายพรรค สายสำนัก สายน้ำ
๒. ปราศจาก
โทสาคติ
ไม่ต้องลำเอียงเพราะไม่ชอบ โกรธ พยาบาท คือ ไม่โกรธเพราะเคยทะเลาะกับตน ไม่โกรธเพราะคนที่เรารักฝากมาโกรธไม่โกรธเพราะเคยขัดประโยชน์ของตน
๓.ปราศจากภยาคติ คือขี้ขลาดตาขาว พกเอาแต่ความขี้ขลาดขี้กลัว ขี้อยู่บนสมอง เหมือนกุ้งกลัวจนสะดุ้งจะเปลาะจนขี้อยู่บนหัวสมอง ต้องไม่กลัวดังต่อไปนี้ คือไม่กลัวขอ ไม่กลัวขู่ ไม่กลัวผู้มีอิทธิพล ไม่กลัวธุรกิจของตนหายนะ
๔. ปราศจาก
โมหาคติ
อย่าพกเอาความลุ่มหลงที่พรรคหรือนักการเมืองเสนอให้ คือต้องไม่หลงยศ ไม่หลงคำเยินยอ ไม่หลงของที่เขาล่อใจ
ขอให้ยึดหลักคำสอนที่ว่า
จงยกย่องคนดีคนเก่งให้ปรากฎ
จงข่มคนคิดทรยศให้ปราชัย
พระราชวิจิตรปฏิภาณ (เจ้าคุณพิพิธ)
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ
๒๒ มกราคม ๒๕๔๘