ประชาธิปไตยในมือเรา
ตอน ๓
เกิดมาเป็นคนปีนี้ก็อายุปาเข้าไป ๔๘ ปีแล้ว อยู่ในประเทศไทยมาตั้งแต่เกิด ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านการรู้เห็นการบริหารของประเทศชาติทั้งที่เป็นประวัติศาสตร์ และที่ได้พบได้เห็นด้วยตาของตนเอง ติดตามการหาเสียงเลือกตั้งมาทุกครั้งและทุกพรรคการเมืองใหญ่ ๆ แต่ยังไม่เห็นการหาเสียงเลือกตั้งครั้งใดมีความแปลกประหลาดมหัศจรรย์เท่ากับการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองใหญ่ ๆ ในครั้งนี้เลย
ที่ว่าแปลกประหลาดมหัศจรรย์ก็คือว่า การหาเสียงมิได้เน้นนโยบายพรรคที่มีอยู่เดิม
แต่ทุกพรรคกลับใช้วิธีการ
ลด แลก แจก แถม แถมโฆษณาล่อลวง
เช่น เรียนฟรี หนี้ไม่ต้องใช้
ขอยืมใหม่ก็มีให้ตลอดเวลา มีที่ไร่ที่นา จัดหาที่อยู่ อีสานจะมีน้ำมีไฟ ภาคใต้จะมีโรงงาน การรักษาพยาบาลฟรี ฯลฯ คนไทยเราทำไมมันช่างโคตรโชคดีอะไรขนาดนี้หนอ ?
ไม่ใช่เฉพาะพรรคใหญ่ ๆ เท่านั้น พรรคเล็ก ๆ ก็ดันเอานโยบายนี้มาใช้กับเขาด้วย โดยที่มิได้ละอายใจว่าตัวเองน่ะมีเงินทองใช้ประทังชีวิตไปวัน ๆ ก็เป็นโชคมหาศาลแล้ว ครั้นเมื่อชาวบ้านได้ฟังก็พากันตาโตโห่ร้องว่า
เทวดามาช่วยพวกเราแล้ว
เลยพานนึกถึงบรรดาปลาหอยที่ติดอยู่ในหนองน้ำที่กำลังจะแห้ง ได้เฝ้าวอนไหว้เทวดาให้ลงมาด้วย ครั้นเห็นเงาจำนวนมากปรากฎบนท้องฟ้าต่างก็พากันดีใจ แต่แล้วกลายเป็นกลุ่มของนกยางที่พากันมาจิกกินกุ้งหอยปูปลาเหล่านั้นจนหมดสิ้น ประชาชนทั้งที่รวยที่จน เมื่อเห็นนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองในยุคนี้จะเคยตั้งคำถามสักนิดไหมว่า
ที่เอามาลดแลกแจกแถมน่ะเงินของเขา หรือ ภาษีของคนที่ทำมาหากิน
นักการเมืองที่เที่ยวโฆษณาสารพัดแจกนั้น ก็ต้องเอาภาษีของประชาชนที่ตั้งใจทำมาหากินแล้วเสียภาษีให้รัฐเอามาละลาย การละลายภาษีโดยที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพื่อนำมาบำรุงรัฐนั้นน่าจะเป็นความผิดอย่างมหันต์ รัฐบาลใดที่ใช้ภาษีประชาชนแล้วนำไปละลายจนหายนะน่าที่จะต้องได้รับโทษทัณฑ์จากประชาชนผู้ขยันทำมาหากิน แต่แทนที่จะเห็นเป็นนักโทษของรัฐ กลับได้รับความนิยมว่าเป็น
เทวดามาโปรด
จะมีนักการเมืองคนใดและพรรคการเมืองไหนบ้างที่ได้พูดถึงการสร้างงานให้กับประชาชน การประสานและส่งเสริมการลงทุนทั้งส่งออกและนำเข้า การให้ประชาชนรู้จัก ขยัน อดทน ประหยัด ซื่อสัตย์ พัฒนาฝืมือ อีกทั้งจัดแผนการเกษตร ทฤษฎีใหม่ ให้เหมาะสมกับภูมิภาค และรัฐเป็นผู้ประสานการตลาดกับภูมิภาค ทั้งภายในและภายนอกประเทศ แต่นั้นแหละจะไปโทษพวกนักการเมืองก็ไม่ได้ ต้องโทษว่า
พวกเรามันทั้งขี้เกียจ โง่ โลภ
/