เมื่องถึง วันแม่ เช่นนี้ ก็มาน้อมระลึกนึกถึงการที่พ่อแม่เลี้ยงเรามา พ่อแม่เลี้ยงเรามามีความทุกข์มาก ทุกข์อะไรบ้าง ท่านทั้งหลายก็มาดูทุกข์ และทุกข์นี้เป็นทุกข์ในอริยสัจจริง ๆ ที่ปรากฏ คือ....
ทุกข์เมื่อลูกหิว...ถ้าลูกหิวทุกข์มาก ไม่มีอะไรให้ลูกกินทุกข์มาก หรือแม้มีกินแล้ว แต่ไม่สมใจลูกก็ทุกข์ ลูกปัดทิ้งกินไม่ลงทุกข์อีก ลูกกินแล้วก็ทุกข์ต่อไปในมื้อหน้า
ทุกข์เมื่อลูกอด...จะอดต่อหน้าหรือไปอยู่ ณ ที่หนึ่งที่ใดแม่อดทุกข์ไม่ได้ เห็นอะไรแล้วก็นึกถึงลูก เมื่อนึกถึงลูกก็ต้องเก็บเอาไปให้ลูก แต่ถ้าลูกอดแล้วท่านจะทุกข์มาก แม่บางคนจึงยอมให้ลูกดูดนมจนตัวเองต้องตายไปก็มี แม่หลายคนที่ตายไปแล้วลูกยังดูดนมแม่จนศพพองขึ้นแล้วลูก็ดูดน้ำเหลืองจากอกแม่ นี่แสดงว่าท่านยอมตายเพื่อไม่ให้ลูกอด
ทุกข์เมื่อลูกไม่สบาย...ถ้าลูกไม่สบายทุกข์มาก นั่งเฝ้ารักษาพยาบาล ท่านพระครูพิศาลธรรมโกศล (หลวงตาแพรเยื่อไม้) ท่านพรรณนาไว้ว่า...
ยามไข้ไร้สุขแม่ก็ทุกข์อาทร
อดตาหลับขับตานอน พยาบาลรักษา
ครั้นเมื่อมดหมอร้องขอค่ายา
ก็ดิ้นรนเสาะหาจนหน้าแดงหน้าดำ
ทรัพย์สินเงินสดก็หมดก็สิ้น
บางครั้งจะกินก็ไม่มีอีกซ้ำ
ต้องเอาไร่นาไปเที่ยวเร่จำนำ
หวังให้ลูกงามของแม่รอดตาย
ทุกข์เมื่อลูกพิกล... เกิดมาแล้วพิกลทางสมอง แม่ทุกข์มาก
ทุกข์เมื่อลูกพิการ... ถ้าลูกพิการ จะพิการมาแต่กำเนิดหรือจะพิการเพราะอุบัติเหตุ
ทุกข์เพราะลูกโง่... โง่เพราะไม่มีความรู้ โง่เพราะสติปัญญาไม่ดีก็ทุกข์ ทุกข์อย่างนี้ทุกข์ไปล่วงหน้าทีเดียวว่า ถ้าตัวของแม่ไม่อยู่แล้วลูกจะเลี้ยงตัวได้อย่างไร
ทุกข์เพราะลูกจน... จนเพราะไม่เจียม จนเพราะไม่จริง จนเพราะไม่อิงศาสนา จนเพราะไม่แสวงหาความรู้
ทุกข์เพราะลูกดื้อ... สอนไม่ฟังสั่งไม่เชื่อ ทุกข์ใหญ่ รู้ว่าลูกต้องไปประสบเคราะห์กรรม ดื้อนักเขาก็จะตีเอา เขาก็จะยิงเอา ก็รู้ทีเดียวว่าลูกจะไปไม่รอด จะมีอายุไม่ยืนยาว
ทุกข์เพราะลูกชั่ว... หลับตาเห็นแต่คุกตะราง เห็นแต่การถูกประหารชีวิต นี่คือความทุกข์ของท่านผู้เป็นแม่ ที่เราทุกคนไม่ค่อยรู้สึกระลึกถึงกัน
แม้ว่า..."วันแม่" จะผ่านมาแล้ว ๗ วัน ก็ยังไม่สายเกินไปที่พวกเราจะน้อมระลึกนึกถึง ตั้งสติกับบ้าง เมื่อตั้งสติแล้วลองย้อนนึกถึงสิใครที่ได้ชั่วระลึกสิว่า...เพราะอะไร เพราะเราไม่เชื่อแม่ ถ้าเราเชื่อแม่เราจะไม่ชั่ว ต้องนึกละอายใจ
ใครที่ได้ดีต้องว่า..อ๋อ...เพราะเราเชื่อแม่ เราจึงได้ดี...